เจาะลึกถึงสาเหตุที่นำไปสู่อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน
แม้จะไม่ใช่อาการเจ็บป่วยที่รุนแรง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า “อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน” ส่งผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ทั้งยังนำไปสู่ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อย่างไรก็ตาม หากเราทราบสาเหตุของอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน ก็จะนำไปสู่การรักษาและป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อาการวิงเวียนศีรษะ รู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนหรือตนเองกำลังหมุนไป โดยที่ตัวเราอยู่นิ่ง คล้ายกับเมาเหล้า หรือรู้สึกโคลงเคลงทั้งที่อยู่กับที่หรือไม่มีการเคลื่อนไหว ทำให้เสียการทรงตัว เดินไม่สะดวก อาการเหล่านี้คนทั่วไปมักเรียกว่า “บ้านหมุน” ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุของอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่พบบ่อย ได้แก่
1. โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (Benign Paroxysmal Positional Vertigo : BPPV) เกิดจากตะกอนหินปูนภายในบริเวณหูชั้นใน เคลื่อนที่หลุดออกจากอวัยวะควบคุมการทรงตัว ทำให้เกิดการส่งสัญญาณไปยังระบบประสาทส่วนกลาง ที่กระตุ้นให้เกิดอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนขึ้นมา ซึ่งสาเหตุของโรคนี้ยังไม่แน่ชัด แต่มักสัมพันธ์กับอายุของผู้ป่วย
2. โรคน้ำในหูไม่เท่ากันหรือโรคมีเนียร์ (Meniere's disease) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของน้ำที่อยู่ในบริเวณหูชั้นใน ส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน อย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียนและสูญเสียการทรงตัว เดินแล้วเซหรือล้มได้ง่าย ร่วมกับมีเสียงในหู (Tinnitus) และการได้ยินลดลง ผู้ป่วยจึงต้องอยู่นิ่ง ๆ เพราะอาจทำให้เกิดอาการเวียนหัวเพิ่มขึ้นได้
3. โรคเส้นประสาทการทรงตัวในหูอักเสบ (Vestibular neuritis) หรือโรคหูชั้นในอักเสบ (Labyrinthitis) เป็นความผิดปกติของหูชั้นในที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อ ซึ่งพบได้ทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดการอักเสบขึ้นในบริเวณหูชั้นใน ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาสมดุลการทรงตัว ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเวียนศีรษะรุนแรงและเป็นอยู่หลายวัน แต่ผู้ป่วยมักมีการได้ยินที่ปกติ พบว่าผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคหูน้ำหนวก แล้วลุกลามเข้าสู่หูชั้นใน อาการมักรุนแรงมาก อาจสูญเสียการได้ยิน
4. โรคเนื้องอกของประสาทการทรงตัวหรือเส้นประสาทการได้ยิน (Acoustic neuroma) ผู้ป่วยจะมีอาการเวียนศีรษะร่วมกับการได้ยินลดลง บางรายมีเสียงรบกวนในหู สำหรับรายที่มีเนื้องอกขนาดใหญ่และไม่ได้รับการรักษา อาจมีอาการชาที่ใบหน้าซีกนั้น อัมพาตของใบหน้า เดินโซเซ หรืออาการทางสมองอื่น ๆ เนื่องจากก้อนเนื้องอกไปกดทับเนื้อสมอง
นอกจากนี้ อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะหรือลำคอ เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ กระดูกกะโหลกแตกหัก อาการผิดปกติทางสมอง อาการปวดศีรษะไมเกรน การรับประทานยาที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บในหู ความเสื่อมตามอายุ หูชั้นในอักเสบ มีการผ่าตัดหูชั้นกลางหรือใน มีการเคลื่อนไหวศีรษะซ้ำ ๆ
อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนซึ่งเกิดจากบางสาเหตุสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการรับประทานยา ใครที่กำลังมองหายารักษาอาการมึนงง บ้านหมุน ขอแนะนำ เมอริสล่อน (Merislon) โดยตัวยา Betahistine mesylate ในเมอริสล่อนออกฤทธิ์ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหูชั้นใน รวมถึงลดความดันภายในหูชั้นใน จึงช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน อาการหัวหมุน วิงเวียนศีรษะ ทรงตัวไม่อยู่ ทั้งยังปลอดภัยสูงและมีผลข้างเคียงต่ำ โดยผู้ใหญ่รับประทานยาเมอริสล่อน ครั้งละ 1-2 เม็ด (ตามความรุนแรงของอาการ) วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร
นอกจากรับประทานยาตามอาการแล้ว ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ เช่น ความเครียด, การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ, สารก่อภูมิแพ้ (ถ้าแพ้), เสียงดัง ฯลฯ จะทำให้อาการดีขึ้นไม่มากก็น้อย