เที่ยวแบบ New Normal เทรนด์ใหม่ยุคโควิด-19
เป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้วที่คนทั่วโลกแทบจะไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนกันแบบจริง ๆ จัง ๆ หรือเป็นการท่องเที่ยวภายในพื้นที่นั้น ๆ เพราะเจ้าโควิด-19 ที่ทำเอาการท่องเที่ยวชะงักงันสั่นสะเทือนไปทั่วโลก
มาจนถึงตอนนี้ สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มดีขึ้น เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ มากขึ้น แหล่งท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ทเริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ทำให้บรรยากาศของการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น แต่ในยุคที่อะไร ๆ ก็ต้อง “New Normal” เช่นนี้ ก็อาจทำให้การท่องเที่ยวแบบเดิมต้องเปลี่ยนแปลงไป ดังที่เราจะพาไปชมความเปลี่ยนแปลงดังนี้
เที่ยวในประเทศกันก่อน กิจกรรมด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกต้องหยุดชะงักเพราะโรคโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปแทบกลายเป็นศูนย์ คนไทยเองก็ไม่สามารถออกเที่ยวต่างประเทศได้ ดังนั้นเมื่อสถานการณ์โรคระบาดค่อยๆ ฟื้นตัว การกระตุ้นการท่องเที่ยวในระยะเริ่มแรกนี้ต้องอาศัยการเที่ยวในประเทศเป็นหลัก ในช่วงนี้หลายๆ โรงแรมต่างก็ออกโปรโมชันหั่นราคากันอย่างน่าสนใจ โดยส่วนมากสามารถเลือกวันพักได้ทั้งวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์ รวมถึงจองได้ยาวๆ ถึงสิ้นปี 2563 หรือยาวไปถึงปี 2564 นับเป็นช่วงเวลาทองของนักท่องเที่ยวที่ยังพอมีกำลังซื้อ ที่จะได้ที่พักสวยๆ ในราคาย่อมเยา และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศด้วย
Travel Bubble และหากเป็นการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ คำว่า “Travel Bubble” ก็จะถูกหยิบยกขึ้นมา โดยคำนี้หมายความถึงการจับคู่ด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศที่มีความมั่นใจในความปลอดภัยของโรคโควิด-19 โดยจะมีการตกลงกันระหว่างรัฐบาลของแต่ละประเทศในการให้สิทธิพิเศษของการเดินทางเข้าออกระหว่างกันได้โดยไม่ต้องถูกกักตัว 14 วัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการเช็คสุขภาพทั้งที่ประเทศต้นทางและปลายทางว่าผู้ที่เดินทางมานั้นปลอดจากโรคโควิด-19 จริง ด้วยวิธีการตามแต่จะตกลงกันระหว่างประเทศ
ในขณะนี้หลาย ๆ ประเทศก็เริ่มนำแนวคิด Travel Bubble นี้ไปใช้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นจีน-เกาหลีใต้ หรือออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ประเทศในกลุ่มทะเลบอลติก เป็นต้น รวมถึงประเทศญี่ปุ่นที่กำลังอยู่ระหว่างพูดคุยกับคู่กับไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ผู้เดินทางส่วนใหญ่ในช่วงแรกก็จะเป็นนักธุรกิจ ส่วนนักท่องเที่ยวธรรมดาๆ อย่างเรานั้นรอให้มีความสะดวกมากกว่านี้แล้วค่อยเที่ยวต่างประเทศก็ยังไม่สาย
ความสะอาดปลอดภัยมาเป็นอันดับ 1 ฝึกตัวเองให้กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และเว้นระยะห่างมาตั้งสามสี่เดือนจนชินแล้ว หากจะออกไปเที่ยวที่ไหนก็ขอให้มีความสะอาดปลอดภัยมากกว่าหรือเท่ากับที่บ้าน ดังนั้นมาตรฐานด้านความสะอาดและสุขอนามัยของโรงแรม ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จะต้องมีเพิ่มมากขึ้นอีก ทำให้นักท่องเที่ยวได้มั่นใจและรู้สึกปลอดภัยที่จะเดินทางออกมานอกบ้าน มากิน เที่ยว พัก มาพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มระยะห่าง หรือ Social Distancing ในล็อบบี้โรงแรม ในห้องอาหาร ปรับมาตรฐานระบบระบายอากาศและระบบฆ่าเชื้อ หรืออาจเลือกใช้วัสดุที่เชื้อโรคไม่เกาะ พยายามลดการสัมผัส อาทิ การจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เป็นต้น
ให้ “หุ่นยนต์” มาช่วย เพื่อเป็นการลดการสัมผัสและลดการแพร่เชื้อจากคนสู่คน ดังนั้นหลายๆ แห่งทั้งแหล่งท่องเที่ยวหรือร้านอาหารจึงใช้ “หุ่นยนต์” ให้มาทำงานแทนคนเสียเลย อาทิ ร้านกาแฟ ร้านอาหารในประเทศเกาหลีใต้ที่ใช้หุ่นยนต์ในการทำอาหารและเสิร์ฟ หรือในสนามบินประเทศสหรัฐอเมริกาใช้หุ่นยนต์ทำความสะอาดแทนคน รวมถึงในเมืองไทยก็มีการนำหุ่นยนต์มาช่วยตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนเข้าโรงภาพยนตร์ และทำหน้าที่ต้อนรับและเปิดหนังตัวอย่างที่กำลังเข้าฉายให้ลูกค้าชม เป็นต้น
นั่งห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ เนื่องจากมาตรการ Social Distancing ทำให้สายการบิน รถบัส รถไฟ ต้องขายตั๋วแบบเว้นระยะห่าง เว้นเบาะที่นั่ง หรือเว้นแถว ดังนั้นจะทำให้ขายตั๋วได้น้อยลงในจำนวนที่นั่งเท่าเดิม เพราะฉะนั้นราคาตั๋วอาจแพงขึ้น รวมถึงจองได้ยากขึ้น เพราะต้องแย่งกันมากขึ้นนั่นเอง ใครอยากเดินทางช่วงนี้ก็อย่าลืมวางแผนและจองตั๋วไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วย
จองคิวเข้าอุทยาน จำกัดคนเข้า เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้สถานที่ท่องเที่ยวมีคนมากเกินไปจนเกิดความแออัด ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ และทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค บางสถานที่จึงวางแผนที่จะใช้วิธีจำกัดจำนวนคนเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ โดยเฉพาะ “อุทยานแห่งชาติ” ในประเทศไทยก็ได้วางแผนที่จะให้มีการจำกัดนักท่องเที่ยว โดยจะต้องมีการจองออนไลน์หรือการซื้อตั๋วล่วงหน้า เพื่อช่วยในการจัดการจำนวนนักท่องเที่ยวที่แต่ละพื้นที่รองรับได้
อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาที่อุทยานแห่งชาติทั่วไทยต้องปิดให้บริการเนื่องจากโรคโควิด-19 ทำให้เราได้เห็นภาพของสัตว์ป่าที่ออกมาโชว์ตัวกันมากขึ้นเนื่องจากไม่มีมนุษย์รบกวน ทางอุทยานฯ จึงได้มองถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ปิดพื้นที่อุทยานแต่ละแห่งอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติได้หยุดพักฟื้นจากการเข้าใช้ประโยชน์ ทำให้เราอาจจะท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติในเวลาที่สั้นขึ้น แต่สามารถรักษาสภาพธรรมชาติได้มากขึ้นนั่นเอง
ทัวร์คุณภาพ กลุ่มเล็กลง หลังจากนี้ไป กรุ๊ปทัวร์คณะใหญ่ ๆ เน้นคนจำนวนมากและราคาถูกจะหมดไป เพราะจะขัดกับหลัก Social Distancing อาจยังเหลือกลุ่มทัวร์คุณภาพ คณะเล็กๆ แต่ดูแลได้ทั่วถึง มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย ทำให้ลูกทัวร์มีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยด้านสุขอนามัย อาจต้องคัดกรองสุขภาพของลูกทัวร์ สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ารายอื่นว่าทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีอาการเจ็บป่วยที่ระบาดติดต่อได้ หรืออาจรับจัดทัวร์เฉพาะกลุ่มที่มาด้วยกันเท่านั้น
สัญลักษณ์แสดงความปลอดภัย และสุดท้าย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงสาธารณสุข หอการค้าไทย และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย จึงได้ร่วมกันทำโครงการแนวทางความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration หรือ SHA โดย ททท.จะมอบตราสัญลักษณ์ SHA เพื่อเป็นการรับรองคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการของสถานประกอบการหนึ่งๆ ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการได้ในอนาคต และยังเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยต่อไปด้วย
ที่มา: https://mgronline.com/travel
|