โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน สาเหตุสำคัญของอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน
อาการวิงเวียนศีรษะ รู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนหรือตนเองกำลังหมุนไป โดยที่ตัวเราอยู่นิ่ง คล้ายกับเมาเหล้า หรือรู้สึกโคลงเคลงทั้งที่อยู่กับที่หรือไม่มีการเคลื่อนไหว ทำให้เสียการทรงตัว เดินไม่สะดวก อาการเหล่านี้เรียกว่า “บ้านหมุน” ซึ่งสาเหตุของอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่พบบ่อย คือ โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน
โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (benign paroxysmal positional vertigo : BPPV) หรือเรียกว่า โรคตะกอนหินปูนหูชั้นในเคลื่อน/ โรคเวียนศีรษะขณะเปลี่ยนท่า เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากตะกอนหินปูนภายในบริเวณหูชั้นใน เคลื่อนที่หลุดออกจากอวัยวะควบคุมการทรงตัว ทำให้เกิดการส่งสัญญาณไปยังระบบประสาทส่วนกลาง ที่กระตุ้นให้เกิดอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนขึ้น สาเหตุของโรคนี้ยังไม่แน่ชัด แต่มักสัมพันธ์กับอายุ
ปกติภายในหูชั้นในของมนุษย์ จะมีอวัยวะควบคุมเกี่ยวกับการทรงตัว และการได้ยิน ในอวัยวะควบคุมเกี่ยวกับการทรงตัว utricle มีตะกอนหินปูน (otoconia) ที่เคลื่อนไปมาโดยไม่หลุด เพื่อรับรู้การเคลื่อนไหวของศีรษะ เมื่อมีสาเหตุให้ตะกอนหินปูนดังกล่าวหลุด ไปอยู่ในอวัยวะควบคุมการทรงตัวอีกชนิดหนึ่งคือ semicircular canal เมื่อมีการเคลื่อนไหวของศีรษะ จะทำให้ตะกอนหินปูนดังกล่าว เคลื่อนที่ไปมาใน semicircular canal และส่งสัญญาณไปยังระบบประสาทส่วนกลาง และกระตุ้นให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนขึ้นมาได้
อาการเฉพาะของโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน เกิดขึ้นทันทีในขณะเปลี่ยนท่าทางของศีรษะ เช่น ระหว่างกำลังล้มตัวลงนอนหรือลุกจากที่นอน เงยหน้า ก้มหยิบของ เป็นต้น โดยอาการมักจะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เป็นแค่ช่วงวินาทีที่ขยับ แล้วอาการจะค่อย ๆ หายไป ผู้ป่วยโรคนี้จะไม่มีอาการหูอื้อ ไม่พบการสูญเสียการได้ยิน หรือเสียงผิดปกติในหู (ยกเว้นในรายที่เป็นโรคหูอยู่ก่อนแล้ว) รวมถึงไม่มีอาการทางระบบประสาท เช่น แขนขาชาหรืออ่อนแรง
แนวทางการรักษาโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน มีดังนี้
1. การรักษาตามอาการ เช่น หลีกเลี่ยงท่าทางและกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการ รับประทานยาบรรเทาอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน โดยทั่วไปอาการของผู้ป่วยจะค่อย ๆ ทุเลาลงหลังการรักษาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป
2. การทำกายภาพบำบัด ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมในปัจจุบันและได้ผลในการรักษา ได้แก่
- การทำกายภาพบำบัดเพื่อเคลื่อนตะกอนหินปูน ได้แก่ วิธีของ Semont และ Epley (canalith repositioning therapy)
- การทำกายภาพบำบัดเพื่อให้เกิดการปรับสภาพของสมองได้เร็วขึ้น ได้แก่ การบริหารแบบ Cawthorne excercises, การบริหารแบบ Brandt-Daroff exercise
3. การผ่าตัด หากการรักษาตามอาการและการทำกายภาพบำบัดไม่ได้ผล
อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนซึ่งเกิดจากบางสาเหตุสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการรับประทานยา ขอแนะนำ เมอริสล่อน (Merislon) โดยตัวยา Betahistine mesylate ในเมอริสล่อนออกฤทธิ์ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหูชั้นใน ทำให้เกิดการลดการคั่งของน้ำเลี้ยงของหูส่วนใน รวมถึงลดความดันภายในหูชั้นใน จึงช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน อาการหัวหมุน วิงเวียนศีรษะ ทรงตัวไม่อยู่ ทั้งยังปลอดภัยสูงและมีผลข้างเคียงต่ำ โดยผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด (ขนาดยาควรปรับตามอายุ และความรุนแรงของอาการ) วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร
ทั้งนี้ การบริหารในช่วงแรกควรมีผู้ดูแลอยู่ด้วย เพื่อป้องกันการล้ม เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการมึนงงและเวียนศีรษะเพราะยังไม่คุ้นเคย และเพื่อให้ได้ผลดี ผู้มีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนควรบริหารแบบคอว์ธอร์นอย่างสม่ำเสมอ