“สุขดี” ที่ใจและกาย เพื่อน ๆ เคยคุ้นกับคำพูดนี้ไหมค่ะ “จะสุขกายได้ต้องอยู่ที่ใจ” ไม่ต้องแปลกใจกันเลยค่ะ ง่ายนิดเดียว เมื่อสุขใจ กายก็สบาย แต่ให้เลือกขอเลือกแบบสุขทั้งใจและกายดีกว่ากันเยอะเลยค่ะ ตามหลักสุขอนามัยแล้ว ถ้าเราสุขได้ทั้งใจและกาย ย่อมก่อเกิดความสุขที่นำไปสู่การกินดีอยู่ดี มีสุขภาพดี นั่นเอง พอเราพูดถึงสุขภาพดี หลายคนคิดไปถึงการออกกำลังกายและการเลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ แต่อาจลืมมองไปว่าการฝึกและบริหารจิตใจให้สงบร่มเย็นนั้นก็เป็นปัจจัยสำคัญยิ่งของการมีสุขภาพที่ดีด้วยเช่นกัน พูดได้ว่า บริหาร “สุข” ทั้งกายและใจไปพร้อม ๆ กัน ย่อมดีกว่าเสมอ
1. สุขภาพดีมีความสุขมากกว่า “เคยมีการศึกษาของ London School of Economics ที่บ่งชี้ว่าสุขภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการระบุว่าบุคคลคนหนึ่งมีความสุขมากน้อยเพียงใด การศึกษา The Origins of Happiness นี้ ตรวจวัดความพึงพอใจในชีวิตของผู้คน และสิ่งที่ส่งผลต่อความพึงพอใจนั้น ซึ่งพบว่าเงินมีผลกระทบต่อความสุขน้อยกว่าสุขภาพกายและความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นค่อนข้างมาก ร่างกายที่แข็งแรง การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และสุขภาพใจที่ดีนั้นสำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวและสุขภาพที่อ่อนแอนำไปสู่ความสุขที่ลดลง ซึ่งทั้งสองปัจจัยมีผลต่อความสุขของแต่ละบุคคลมากกว่าสถานะการเงินอย่างชัดเจน นี่คือข้อมูลที่รวบรวมมาจากผู้เข้าร่วมวิจัยในสี่ประเทศรวม 200,000 คน” (ข้อมูลเพิ่มเติมจาก https://www.chubb.com) 2. คนที่มีความสุขย่อมมีอายุยืนกว่า แน่นอนว่าการที่เพื่อน ๆ มีทัศนคติเชิงบวกนั้น ย่อมส่งผลให้เรามีความสุขได้ อุปนิสัยที่ร่าเริงสดใส คิดบวก ไม่มองโลกในมุมร้อย ทำให้คนเรามีอายุที่ยืนขึ้นได้ นอกจากจะทำให้อายุยืนได้แล้ว ยังทำให้ลดภาวะสมองเสื่อมได้อีกด้วย 3. ความสุขช่วยให้หัวใจแข็งแรง ความสุขจากการมองโลกในแง่บวกสามารถลดอาการเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรงได้เช่นกัน สังเกตง่าย ๆ คือ ถ้าเพื่อน ๆ มีความสุขอยู่ในแต่ละวัน ไม่โกรธและเครียดง่าย เพื่อน ๆ มักมีระดับความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจที่ต่ำกว่า ซึ่งเป็นสัญญาณของการมีสุขภาพที่ดี รู้แบบนี้แล้ว เราขอให้เพื่อน ๆ มีความสุขในทุก ๆ วันนะคะ 4. ความสุขเพิ่มการต้านทานโรคได้ แน่นอนที่สุดว่าความสุขยังช่วยลดปัญหาสุขภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ด้วย เช่น โรคหวัด และไข้หวัดใหญ่ เคยมีการศึกษาที่พบว่าการใช้ชีวิตแบบคิดบวกช่วยเสริมภูมิต้านทานโรคได้จริง มันช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับไวรัสต่าง ๆ และจำกัดผลกระทบที่อาจเกิดต่อร่างกายมีการศึกษาโดย Carnegie Mellon University ในสหรัฐฯ กับผู้ใหญ่จำนวน 350 คน เพื่อค้นหาว่าความสุขส่งผลให้แนวโน้มการเกิดโรคหวัดลดลงได้หรือไม่ โดยผู้เข้าร่วมการวิจัยได้รับการติดต่อหกครั้งในช่วงสองสัปดาห์ เพื่อเช็กดูว่าบ่อยครั้งแค่ไหนที่พวกเขารู้สึกถึงอารมณ์เชิงบวกที่กำหนดไว้เก้าแบบ หลังจากนั้น ผู้เข้าร่วมทุกคนจะได้รับไวรัสโรคหวัดและถูกกักตัวเป็นเวลานานห้าวัน จากการศึกษาพบว่ากลุ่มคนที่มีอารมณ์เชิงบวกมากกว่าในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่จะติดโรคหวัดได้น้อยกว่า ซึ่งหมายถึงพวกเขามีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงกว่า (ข้อมูลเพิ่มเติมจาก https://www.chubb.com) เอาละค่ะ อ่านแล้วสรุปได้ว่า ความสุขให้ประโยชน์มากมายทั้งกายและใจ ถือว่าเป็นอาหารที่ทำให้ใจและกายของเพื่อน ๆ เติบโตอย่างแข็งแรง และมีความสุขอย่างยั่งยืนได้นะคะ
|
Home >> |
สุขดี ที่ใจและกาย |
|
|