ฝุ่นพิษ PM 2.5 อันตรายต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องระวังให้มาก ลำพังการใช้ชีวิตตามปกติ ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เป็นมลภาวะตัวร้าย ก็สามารถส่งผลต่อร่างกายของคนที่สุขภาพแข็งแรงได้อยู่แล้ว และยิ่งกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้กำเริบ รวมไปจนถึงมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่รุนแรงขึ้น ดังนั้นสำหรับคนท้องที่ร่างกายอ่อนแอลง ป่วยได้ง่าย การเสี่ยงกับมลภาวะชนิดนี้จึงเป็นเรื่องที่อันตราย เพราะนอกจากจะส่งผลถึงตัวเองโดยตรงแล้ว ยังสามารถส่งผลต่อลูกในครรภ์ได้ด้วย ทำไมฝุ่นพิษ PM 2.5 จึงส่งผลต่อลูกในครรภ์ สารพิษอะไรบ้างที่อยู่ในฝุ่นพิษ PM 2.5 ภัยของฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่มีต่อเด็กแรกเกิด นอกจากนี้ ข้อมูลจากเพจ Drama-addict ยังระบุว่ามีงานวิจัยหลายตัว ที่ทดลองในสัตว์ทดลอง และศึกษาในมนุษย์เกี่ยวกับผลกระทบของ PM 2.5 ต่อลูกในท้อง ในสัตว์ทดลองพบว่า เมื่อแม่หนูสัมผัส PM 2.5 ในระดับหนึ่ง จะมีผลกระทบต่อการพัฒนาสมองของลูกหนูอย่างชัดเจน ส่วนในคนพบว่าแม่ที่มีประวัติสัมผัส PM 2.5 มีโอกาสเสี่ยงที่ลูกในท้องจะโตช้าน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ หรืออาจคลอดก่อนกำหนด นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กที่แม่สัมผัส PM 2.5 มีแนวโน้มที่จะอายุไขสั้นกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากในร่างกายเด็กจะมียีนเทโลเมียร์ สั้นกว่าคนปกติ “เทโลเมียร์” คือส่วนประกอบของโครโมโซมในเซลล์ ถ้าร่างกายเราแบ่งเซลล์มากขึ้นเท่าไหร่ เทโลเมียร์ จะสั้นลงเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่ง ที่เทโลเมียร์สั้นสุด ๆ ไปต่อไม่ได้เซลล์ตัวนั้นก็จะสิ้นสุดอายุขัย เมื่อเด็กมีเทโลเมียร์ส์ที่สั้นกว่าเด็กปกติทั่วไป เมื่อคลอดออกมาก็มีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยสารพัดโรค เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ หรือมะเร็งต่าง ๆ และยิ่งแม่สัมผัสกับ PM 2.5 มากขึ้นเท่าไร ยีนส์ เทโลเมียร์ของเด็กก็จะสั้นมากขึ้นเท่านั้น นับว่าเป็นภัยต่อสุขภาพที่น่ากลัว และน่ากังวลมาก ๆ ในสถานการณ์ปัจจุบันแบบนี้ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ คุณแม่ตั้งครรภ์ก็ควรดูแลสภาพอากาศภายในบ้านด้วยนะคะ เพราะเจ้าฝุ่นพิษ PM 2.5 นี้กระจายได้ทั่วไป ในบ้านก็อาจไม่ปลอดภัยเสมอไปก็ได้ควรติดตั้งเครื่องกรองอากาศ และอื่น ๆ ตามความเหมาะสม และถ้าหากต้องเดินทางออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 ทุกครั้ง
ข้อมูลจาก Rakluke, Kapook |
Home >> |
ฝุ่นพิษ PM 2.5 อันตรายต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องระวังให้มาก |
|
|