5 Levels of Understanding การเข้าใจซึ่งกันและกัน คือกุญแจสู่ความสำเร็จ

5 Levels of Understanding

การเข้าใจซึ่งกันและกัน คือกุญแจสู่ความสำเร็จ

          ปัญหาโลกแตกอย่างหนึ่งที่มีผลต่อความสำเร็จของเรามาก คือ การไม่เข้าใจซึ่งกันและกันของเรากับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนร่วมงาน, พ่อ - แม่, พี่ - น้อง, ลูกน้อง, หัวหน้า, เจ้านาย, ลูกจ้าง, นายจ้าง, หุ้นส่วน และคนสำคัญ คือ “คู่รัก - คู่ชีวิต”

          บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองก็มีปัญหานี้อยู่ และแย่กว่านั้นคือไม่รู้ว่าคนเหล่านี้นี่แหละคือ “กุญแจสู่ความสำเร็จ” ดอกสำคัญของเราเลยทีเดียวคะ

          ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าเราคิดอยากเปลี่ยนงาน หรืออยากเริ่มทำธุรกิจ แต่พอไปเล่าให้คนที่บ้านฟัง ทุกคนไม่เห็นด้วย ไม่สนับสนุน พูดตัดกำลังใจ …แค่คิดก็ยากแล้วจริงไหมคะ

          กลับกัน ถ้าเราอยากเริ่มทำธุรกิจ แล้วคนที่บ้านรับฟัง เห็นด้วย ให้กำลังใจ ช่วยหาข้อมูล แถมยังสนับสนุนส่งเสริมเรา …แบบนี้แค่คิดก็รู้สึกมีพลัง ความมั่นใจนี่มาเต็มร้อยแล้วใช่รึเปล่า

          พอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมคะว่าคนรอบข้างสำคัญกับความสำเร็จของเรามากแค่ไหน

          ทีนี้เราจะเริ่มพัฒนาความเข้าใจกับคนรอบข้างยังไงดี ?

          ก่อนจะไปถึงตรงนั้นมาทำความเข้าใจกันอีกนิด การที่เราหวังให้คนอื่นมาเข้าใจเรา

          คิดง่าย ๆ ก็เหมือนกับเราหวังจะให้ลูกค้าโทรหาเรา มันเป็นไปได้มั้ยคะ เป็นไปไม่ได้หรอก มีแต่เรานี่แหละต้องโทร.หาเขาก่อน

          ถ้าเราหวังจะได้รับอะไรจากคนอื่นนั่นคือการ “รอคอย” แต่ถ้าเราไม่เริ่มที่จะ “ให้” คนอื่นก่อน เราก็ไม่มีวันที่จะ ”ได้” สิ่งนั้น นี่คือกฏของ นโปเลียน ฮิลล์

          เพราะฉะนั้น ทั้งหมดให้เริ่มต้นที่ “ตัวเรา”

          “มันต้องเริ่มจากที่ตัวเราเข้าใจคนอื่นก่อน แล้วคนอื่นจึงจะส่งพลังแห่งความเข้าใจกลับมาให้เรา”

          ซึ่งก็ทำได้ง่าย ๆ วันนี้โค้ชเปิ้ล มี 5 ขั้นตอน ที่จะช่วยพัฒนาความเข้าใจซึ่งกันและกันของเรากับคนรอบข้าง ซึ่งใช้ได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็น หุ้นส่วน หัวหน้า ลูกน้อง พ่อแม่ และ “คู่ชีวิต” ของเราคะ

Level 1. รับฟัง (Listen)

          Step แรก เราก็ต้องฟังเขาก่อน มันก็เหมือนกับที่เราจะให้คนอื่นเข้าใจเรา ถ้าเราไปพูดอะไรปุ๊บ แล้วเขาไม่ฟังเรา มันก็เท่ากับ เขายังไม่ได้เริ่มต้นที่จะเข้าใจเรา กลับมามองที่ตัวเราใหม่ ถ้างั้นเราต้องเริ่มต้นจากการ “รับฟังคนอื่นก่อน” เหมือนกัน นี่คือการแสดงออกถึงความเข้าใจผู้อื่น ในระดับแรก

          บางคนคิดว่า ก็ฟังแล้วไง แต่ก็ยังไม่เข้าใจ ให้มาดูต่อที่ Step 2 คะ

Level 2. ใจเป็นกลาง (Neutral Mind)

          เมื่อรับฟังแล้ว ก็อย่าเพิ่งคิดด่วนสรุปตัดสิน (No Judgement) หรือแสดงความคิดเห็นขัดแย้งในทันที ข้างในใจและความคิดเราต้องเป็นกลาง ฟังด้วยจิตว่างคะ

          ถ้าฟังด้วยใจที่ไม่เป็นกลางคือ แทนที่เราจะพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่รับฟัง แต่กลับมีอะไรบางอย่างในตัวเราที่ทำงานและมาตัดสินเขาไปแล้ว เพราะฉะนั้นในความคิดของคนที่จะเข้าใจคนอื่นได้แบบ “ใจบริสุทธิ์” จริง ๆ ต้องทำความคิด ทำใจให้เป็นกลางก่อน จึงจะ “ฟังได้ยิน” สิ่งที่เขาพูดทั้งหมด

          เท่ากับว่า ถ้าเราไม่ฟังด้วยใจที่เป็นกลาง เราอาจจะพลาดข้อความอะไรบางอย่างที่เขากำลังสื่อออกมาก็ได้ เพราะว่าตัวเราเองไม่ได้ทำสมองเราให้ว่าง เพราะแบบนี้แหละ บางครั้งเราถึงรู้สึกได้ว่า “เฮ้ย คนนี้เขาไม่ได้ฟังเราจริง ๆ หรอก” เพราะบางทีคนฟังเขาดูจะไม่รู้เลยว่าเรากำลังสื่ออะไรอยู่

          ฉะนั้น ถ้าเราไม่ได้ทำความคิดให้เป็นกลาง ไม่ได้ทำสมองให้โล่ง เราก็ “ฟังไม่ได้ยิน” ทั้งหมดที่เขาพูดหรอกค่ะ แล้วถ้าเราฟังไม่ได้ยินก็หมายความว่าเราไม่เข้าใจเขาแล้วคะ

          การทำความคิดให้โล่ง ฟังด้วยใจที่เป็นกลาง ให้ได้ยินทั้งหมดที่เขาพูด จึงเป็นความเข้าใจในระดับที่ 2 คะ

Level 3. กล่าวชื่นชมหรือขอบคุณ (Praise or Thanks)

          พอเราฟังได้ยิน เราก็จะรู้แล้วว่า เขาต้องการจะสื่ออะไรกับเรา ถ้าสิ่งนั้นมันดี มันมีประโยชน์ เราก็ “กล่าวคำชื่นชม” หรือ “ขอบคุณ” เขาซะ เพื่อให้เขารู้ว่า “สิ่งที่เขาเล่ามามันเป็นประโยชน์นะ” พอคนเล่าได้ยินคนฟังกล่าวชื่นชมหรือขอบคุณแบบนี้ เขาก็จะรู้สึกดีว่า “นี่แหละ…มันมีคนที่เข้าใจเขา”

          การแสดงความเข้าใจของเราเริ่มเป็นรูปธรรมที่จุดนี้นี่แหละค่ะ พอเรากล่าวคำชื่นชม อีกฝ่ายก็จะเริ่มรู้สึกดีที่มีคนเข้าใจเขา นี่คือระดับ 3

Level 4. ส่งเสริม สนับสนุน ด้านกำลังใจ (Will Support)

          พอถึงจุดนี้มาดูซิว่าเราทำอะไรต่อได้อีก คำตอบคือ เราก็ “ให้กำลังใจ” เขา สนับสนุนเขา “ทำเลยสิ มีอะไรให้ช่วยไหม” “จะทำอันนี้เหรอ เดี๋ยวช่วยหาช่องทางให้นะ” “เดี๋ยวจะช่วยติดต่อคนนี้ให้” “เดี๋ยวช่วยหาคนออกแบบให้” นี่แหละคือการให้กำลังใจและสนับสนุน

          คนที่เล่ามาก็จะรู้สึกว่า “เริ่มมีความหวังแล้ว” คนๆ นี้ ทั้ง “เข้าใจ” และ “พร้อมจะช่วย” เขา คนนี้นี่เข้าใจเราจริง ๆ เข้าใจเรามากเลยนะ

          แต่ถ้าจะให้เป็นการแสดงความเข้าใจระดับสูงสุดตามหลักของนโปเลียน ฮิลล์ ต้องไปที่ระดับที่ 5 คะ

Level 5. ส่งเสริม สนับสนุน ด้านเงินทุน หรือทุนการศึกษา (Financial Support)

          ถ้ามาถึงขั้นนี้ได้ มันจะตอบโจทย์คนเล่าทั้งหมดเลยว่า คนนี้แหละที่เข้าใจเรามากที่สุด และคนนี้แหละที่อาจจะเป็นคู่ธุรกิจ คู่เพื่อนสนิทที่สุด อาจจะพัฒนาไปเป็นคู่รัก อาจจะได้แต่งงานเป็นคู่สมรส คู่ชีวิตกัน

          นี่แหละค่ะคือความเข้าใจขั้นสูงสุด ซึ่งก็ต้องเริ่มมาจากระดับแรกก่อน

          ใครที่สนใจอยากมีคู่ชีวิต คู่ธุรกิจ อยากประสบความสำเร็จ ลองไปฝึกดูนะคะ

          5 step ง่าย ๆ “ฟัง - ใจเป็นกลาง - ชื่นชม - ให้กำลังใจ - สนับสนุนเงินทุน” บอกกับตัวเองเสมอว่า เราต้องเป็นคนเริ่มต้น “ให้” ความเข้าใจกับคนอื่นก่อน

          ใครที่ไปฝึกแล้วมีพัฒนาการยังไง มาเล่าให้โค้ชเปิ้ลฟังบ้างนะคะ

เครดิต : โค้ชเปิ้ล มิทเชล
อาจารย์รับรองหนึ่งเดียวในประเทศไทย
The Napoleon Hill Foundation, USA
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.successmastermind.co.th
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก http://icare.kapook.com